ศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ

    โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ เดินหน้ายกระดับการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ด้วยการเปิดศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาแห่งแรกของจังหวัดศรีสะเกษ ถือเป็นการร่วมกับภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในพื้นที่อย่างครบวงจรและทันสมัยสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่มุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจนถึงระยะสุดท้าย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาค 
     

     เปิดให้บริการศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา รพ.พริ้นซ์ ศรีสะเกษในช่วงมกราคม 2568 นี้ ให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย (Diagnosis)

• ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งทุกชนิด (Cancer Screening)
• การรักษาด้วยรังสีรักษา (Radiation therapy)  
• รักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) 
• รักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) 
• การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Palliative Care) 

โดยมีเป้าหมายให้บริการรักษามะเร็งและรังสีรักษา ที่มีมาตรฐานสากลเพื่อชาวศรีสะเกษและพื้นที่ใกล้เคียง ให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

บริการการคัดกรองของศูนย์

1. การวินิจฉัยโรคมะเร็ง (Diagnosis) เป็นกระบวนการทางการแพทย์เพื่อระบุว่าบุคคลนั้นเป็นมะเร็งหรือไม่ กระบวนการนี้อาจรวมถึงขั้นตอนหลายอย่างเพื่อยืนยันการมีอยู่ของเซลล์มะเร็ง และเพื่อประเมินชนิดของมะเร็งและระยะของโรคที่ผู้ป่วยเป็น 
2. ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งทุกชนิด (Cancer Screening) บริการตรวจสุขภาพ คัดกรองโรคมะเร็ง โดยเป็นการตรวจค้นหาสาเหตุของโรคมะเร็งในแต่ละส่วน แยกสำหรับผู้ชายและผู้หญิงได้อย่างละเอียด สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มของโรคแม้ยังไม่มีอาการแสดงให้เห็น การตรวจคัดกรองมีวัตถุประสงค์คือการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา เพิ่มโอกาสรักษา ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง
    

บริการการรักษาของศูนย์

1. การรักษาด้วยรังสีรักษา (Radiation therapy) การใช้รังสีพลังงานสูงฉายตรงไปที่ตำแหน่งของเซลล์มะเร็ง เพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์มะเร็งนั้นๆ โดยการฉายแสงจะส่งผลให้เซลล์มะเร็งที่ได้รับรังสีมีการเปลี่ยนแปลงในระดับยีน
2. รักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) วิธีการรักษามะเร็งด้วยกลุ่มยาที่ออกฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งในร่างกาย พร้อมทั้งยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัว เติบโต แพร่กระจาย และตายลงในที่สุด การให้คีโม ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง ลดจำนวนเซลล์มะเร็ง และป้องกันการเป็นซ้ำ
3. รักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) เป็นยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง ซึ่งยับยั้งการส่งสัญญาณที่เกี่ยวข้องต่อการเจริญเติบโต และการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ทำให้มีการตอบสนองในการรักษาสูง สามารถควบคุมโรคมะเร็งได้ยาวนานกว่า
4. การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Palliative Care)  บริการดูแลที่มีมุ่งเน้นในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว โดยลดความทุกข์ทรมานทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และจิตวิญญาณ เป็นการดูแลควบคู่กับการรักษาหลักที่มุ่งหวังกำจัดตัวโรค 

นวัตกรรมการรักษา / เทคโนโลยี / เครื่อง

1. เครื่องฉายรังสี Vital Beam เป็นนวัตกรรมเครื่องฉายรังสีที่ใช้กระแสไฟฟ้าผลิตรังสีเอกซ์พลังงานสูงเพื่อให้ฉายรังสีแบบเจาะจงไปที่ตำแหน่งเซลล์มะเร็ง ทำลายก้อนมะเร็ง ในขณะที่เนื้อเยื่อข้างเคียงได้รับผลกระทบน้อยที่สุด จึงให้คุณภาพการรักษาสูงต่อผู้ป่วย
2. เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สําหรับจําลองการรักษา (CT-Simulator) เป็นเครื่องจําลองการรักษาที่สามารถสร้างภาพเป็น ลักษณะ 3 มิติเห็นการซ้อนทับของอวัยวะภายในร่างกายได้ เพื่อให้ทราบถึงตำแหน่ง ขนาดและรูปร่างที่แท้จริงของก้อนเนื้อร้ายและอวัยวะปกติที่อยู่รอบข้างก้อนเนื้อร้ายตัวเครื่องคล้ายเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ในงานรังสีวินิจฉัย
3. เครื่องดิจิทัลแมมโมแกรม (Digital Mammogram) เครื่องตรวจหามะเร็งเต้านม เป็นเทคโนโลยีชั้นนำระดับประเทศ สามารถตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ระยะแรกก่อนแสดงอาการซึ่งอาจไม่สามารถตรวจพบได้จากการตรวจสุขภาพทั่วไป ด้วยระบบที่แม่นยำสามารถตรวจรายละเอียดของเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ตรวจอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) เครื่องตรวจด้วยการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง สะท้อนไปที่อวัยวะภายในที่ต้องการแล้วแปลงเป็นสัญญาณภาพ ซึ่งสามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคของแพทย์ได้
5. เครื่องเอกซเรย์ระบบดิจิตอล (Digital Radiography) เครื่องมือการถ่ายภาพรังสีโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาร่วมในการสร้างภาพ ภาพที่ได้จะปรากฏลงในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์  และนำข้อมูลทางรังสีนี้มาใช้ดูเฉพาะส่วน ขยายภาพ หรือปรับความทึบของภาพ เพื่อศึกษาระดับความทึบต่าง ๆ เช่น เนื้อเยื่อ หรือกระดูก 
6. เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 128 สไลค์ (Computed tomography, CT Scan 128 Slice) เป็นเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง สามารถ SCAN ได้เร็วถึง128 ภาพ ต่อการหมุน 1 รอบ โดยใช้เวลาเพียง 0.4 วินาที เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง เครื่องนี้มีโปรแกรมช่วยลดปริมาณรังสี ทำให้ผู้ป่วยได้รับปริมาณรังสีน้อยลงกว่า CT SCAN ที่ใช้อยู่ทั่วไปในปัจจุบัน