Header

มะเร็งปอด คืออะไร สาเหตุ อาการ การรักษา ภัยเงียบใกล้ตัว

นพ.วงศกร กัลยพฤกษ์ นพ.วงศกร กัลยพฤกษ์

อาการมะเร็งปอด โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ

     หนึ่งในสาเหตุที่คร่าชีวิตผู้คนมามากมายมะเร็งปอด ภัยเงียบที่ไม่แสดงอาการผิดปกติ กว่าจะรู้ก็แทบสายเกินไปเสียแล้ว มะเร็งปอด หลายคนฟังดูแล้วเหมือนเรื่องไกลตัว แต่ทราบหรือไม่ว่าทุกวันนี้ เราทุกคนกำลังสัมผัสกับปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอดทุกวัน ดังนั้นจึงอยากย้ำว่าในความจริงแล้วมันอาจอยู่ใกล้กว่าที่เราคิด ภัยร้ายที่ทุกคนควรตระหนัก และให้ความสำคัญ เพราะแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากเป็น และไม่อยากให้คนที่เรารักเป็น หรือเกิดการสูญเสียกันทั้งนั้น ด้วยพฤติกรรมของตัวเรา คนรอบข้าง หรือแม้แต่คนในครอบครัว ก็อาจเป็นตัวชักจูงมะเร็งปอดให้เข้าใกล้เรามากขึ้นก็ได้ ความน่ากลัวของมะเร็งปอดจะไม่แสดงอาการในระยะแรก ดังนั้นหากไม่มีการตรวจร่างกายเป็นประจำก็ไม่สามารถรู้เลยได้ เมื่อเราเริ่มมีเชื้อก็สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้อย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และทันท่วงที ทำให้อัตราการเสียชีวิตสูงนั่นเอง ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ การรักษา เพื่อรู้ก่อนจะเข้าข่ายเสี่ยงกันครับ 

 

มะเร็งปอด คืออะไร 

     มะเร็งปอด (Lung cancer) คือ โรคที่เกิดจากเซลล์ในปอดมีการเจริญเติบโตผิดปกติ  และแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว โดยปอดเป็นอวัยวะสำคัญในระบบทางเดินหายใจ มีหน้าที่หลักในการแลกเปลี่ยนก๊าซ เมื่อเกิดความผิดปกติและเริ่มรุนแรง เซลล์ที่ผิดปกติจะกลายเป็นก้อนเนื้อร้ายที่สามารถเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อ และอวัยวะใกล้เคียง หรือแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายในบริเวณกว้าง ซึ่งมักไม่แสดงอาการในระยะแรก

 

ปัจจัยเสี่ยง มะเร็งปอด 

มะเร็งปอดโรคร้ายที่คุกคามชีวิตมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่มีส่วนช่วยกระตุ้นทำให้เกิดโรคนี้ขึ้นมา ดังนี้ครับ 

  • การสูบบุหรี่ ปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งที่ทุกคนคงทราบกันดี ทั้งการสูบบุหรี่ทั้งบุหรี่ธรรมดา และบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปอด สารเคมีในควันบุหรี่จะค่อย ๆ เข้าไปไปทำลายเซลล์ปอด ทำให้เกิดการกลายพันธุ์และพัฒนาเป็นมะเร็งได้
  • การสูดดมควันบุหรี่มือสอง อันตรายไม่แพ้กับคนสูบ แม้จะไม่ได้สูบบุหรี่เอง แต่การสูดดมควันบุหรี่จากผู้อื่น ก็เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดได้เช่นกัน เนื่องจากควันบุหรี่มือสองก็มีสารก่อมะเร็งเช่นเดียวกัน เสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากขึ้นถึง 30%
  • มลภาวะทางอากาศ ฝุ่นละอองและสารพิษ ฝุ่นละออง PM2.5 ควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม และมลพิษทางอากาศอื่นๆ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในการเกิดมะเร็งปอดทั้งหมดครับ 
  • การสัมผัสสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรม ที่ต้องสัมผัสกับสารก่อมะเร็ง เช่น แร่ใยหิน อาซิบีตอส ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะเกิดมะเร็งปอด
  • โรคปอดเรื้อรัง  เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หรือ วัณโรค เป็นอีกสาเหตุความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด
  • พันธุกรรม เป็นปัจจัยที่คงเลี่ยงกันไม่ได้ บางคนอาจมีพันธุกรรมที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดสูงกว่าคนทั่วไป ดังนั้นคนที่มีความเสี่ยงต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพอย่างเคร่งครัด

 

อาการมะเร็งปอด  

     มะเร็งปอดในระยะเริ่มแรกเริ่มมักจะไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ ซึ่งทำให้อาจจะยังไม่มีอาการที่ชัดเจน ทำให้หลายคนพลาดโอกาสในการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่เมื่อโรคเข้าสู่ระยะที่เริ่มลุกลาม อาจมีอาการที่แสดงให้เห็นมากขึ้น ดังนี้

  • ไอเรื้อรัง อาการที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ป่วยมะเร็งปอด โดยอาจเป็นไอแห้งๆ หรือไอมีเสมหะ
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
  • เสียงแหบ เนื่องจากก้อนมะเร็งไปกดทับเส้นเสียง
  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียง่ายกว่าปกติ
  • ปวดศีรษะ อาจเกิดจากการที่มะเร็งไปกดทับเส้นประสาท
  • บวม ที่บริเวณใบหน้า คอ แขน เนื่องจากมะเร็งไปกดทับเส้นเลือด
  • นิ้วมือปลายเท้าเปลี่ยนสี เป็นสีฟ้าหรือม่วง เนื่องจากการไหลเวียนเลือดไม่ดี
  • ไอมีเลือด อาจมีปริมาณน้อยมาก หรือเป็นเลือดสดในระยะรุนแรง
  • หายใจลำบาก รู้สึกหายใจไม่เต็มปอด หอบเหนื่อย ในระยะรุนแรง
  • เจ็บหน้าอก อาจเจ็บร้าวไปที่หลังหรือไหล่ในระยะรุนแรง
     

มะเร็งปอด มีกี่ระยะ ?

มะเร็งปอด สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะหลัก พิจารณาจากขนาดของก้อนมะเร็ง ตำแหน่งที่อยู่ และการแพร่กระจาย

  • มะเร็งปอดระยะที่ 1 หากตรวจพบในระยะนี้ โอกาสในการรักษาให้หายขาดเป็นไปได้สูงมาก เนื่องจากเซลล์มะเร็งยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น มะเร็งยังอยู่แค่ภายในปอด มีขนาดเล็กไม่เกิน 3-4 เซนติเมตร และยังไม่แพร่กระจาย
  • มะเร็งปอดระยะที่ 2 ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า 4 เซนติเมตร ในระยะนี้เริ่มแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง หรือเนื้อเยื่อรอบ ๆ เช่น กล้ามเนื้อหรือเยื่อหุ้มปอด 
  • มะเร็งปอดระยะที่ 3 ในระยะนี้มะเร็งจะเริ่มแพร่กระจาย ไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณกลางทรวงอก หรืออาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะใกล้เคียง เช่น ผนังทรวงอก หลอดลม หลอดอาหาร
  • มะเร็งปอดระยะที่ 4 มะเร็งแพร่จะกระจายไปยังอวัยวะอื่นที่ห่างไกลออกไป เช่น ตับ ไต สมอง ต่อมหมวกไต หรือกระดูก

 

การป้องกันมะเร็งปอด

การป้องกันมะเร็งปอดเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมนั่นเองครับ 

  • เลิกสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปอด การเลิกสูบบุหรี่ไม่เพียงลดความเสี่ยง แต่ยังช่วยปรับปรุงสุขภาพปอดและระบบหายใจทันที
  • ลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง หากอยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่ ควรหลีกเลี่ยง หรือขอให้พวกเขาสูบบุหรี่ในที่ที่เหมาะสม เพราะควันบุหรี่มือสองก็น่ากลัวไม่แพ้กับควันบุหรี่มือหนึ่ง เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด
  • ลดการสัมผัสมลพิษทางอากาศ หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีมลภาวะสูง เช่น ควันจากการจราจร หรือบริเวณที่มีฝุ่น PM2.5 หากต้องอยู่ในบริเวณนี้หรืออยู่ใกล้ ควรหมั่นใช้หน้ากากอนามัยเมื่อจำตลอดเวลาเป็นต้องอยู่ในที่เสี่ยงนี้
  • หลีกเลี่ยงสารเคมีอันตราย หากทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น แร่ใยหิน สารหนู หรือควันสารเคมี ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันอย่างเหมาะสมตามพื้นที่หน้างาน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักและผลไม้สด และลดการบริโภคอาหารแปรรูป หรือที่ใส่สารกันบูด
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอดให้ดีขึ้น
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มลพิษทางอากาศสูง ที่สำคัญสำหรับคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็งปอด ยิ่งไม่ห้ามชะล้าใจควรปรึกษาแพทย์และตรวจคัดกรองมะเร็งปอดอย่างสม่ำเสมอ

 

การตรวจวินิจฉัยมะเร็งปอด

     การวินิจฉัยโรคมะเร็งปอดเป็นขั้นตอนสำคัญมากที่จะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบโรคในระยะแรกเริ่ม หรือยืนยันการวินิจฉัยหากพบความผิดปกติ เพื่อให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแพทย์จะใช้หลายวิธีร่วมกันในการวินิจฉัยโรค ดังนี้
1. การตรวจคัดกรอง (Screening)
     เป็นวิธีการตรวจเบื้องต้นโดยการซักประวัติและตรวจร่างกาย เช่น ไอเรื้อรัง ไอมีเลือด หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก น้ำหนักลด ประวัติการสูบบุหรี่ ประวัติการเจ็บป่วยอื่น ๆ และการตรวจร่างกายทั่วไป เพื่อสังเกตหาอาการผิดปกติ
2. การตรวจทางภาพถ่ายรังสี (Imaging Tests)

  • X-ray : เป็นการตรวจเบื้องต้น เพื่อดูความผิดปกติของปอด
  • CT Scan : เพื่อระบุตำแหน่ง และขนาดของก้อนเนื้อในปอด ดูการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังอวัยวะใกล้เคียงให้ชัดเจนขึ้น ช่วยให้ประเมินการแพร่กระจายของมะเร็ง
  • MRI : เพื่อช่วยประเมินการลุกลามของเซลล์มะเร็งที่แพร่กระจายไปยังสมอง หรือกระดูก
  • PET Scan : เป็นการตรวจโรคทางด้านรังสิวิทยา โดยการใช้สารกัมมันตรังสีเพื่อตรวจหาการแพร่กระจาย

3. การส่องกล้อง (Bronchoscopy) การส่องกล้อง เป็นวิธีที่ใช้ในการตรวจหามะเร็งปอดในระยะเริ่มต้น โดยใช้กล้องที่มีขนาดเล็กสอดเข้าไปในหลอดลม เพื่อดูสภาพภายในปอด หากพบความผิดปกติสามารถเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อตรวจหาเซลล์มะเร็งได้ ช่วยให้การักษาง่ายขึ้น
4. การตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy) การตรวจชิ้นเนื้อ หรือ Biopsy เป็นการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากก้อนมะเร็งที่สงสัย เพื่อนำไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ เช่น การใช้เข็มดูดเนื้อเยื่อจากก้อนเนื้อ หรือการผ่าตัดเพื่อนำชิ้นเนื้อออกมา
5. การตรวจเลือด (Blood Tests) การตรวจเลือด ใช้เพื่อตรวจหาสัญญาณของมะเร็งบางชนิด เช่น การตรวจหาสารที่เรียกว่า Tumor Markers ที่สามารถบ่งชี้การมีมะเร็ง แต่ทั้งนี้วิธีนี้อาจไม่สามารถยืนยันการมีมะเร็งปอดได้ 100%

 

การรักษามะเร็งปอด

     การรักษามะเร็งปอดจะขึ้นอยู่กับระยะของโรคที่พบด้วยครับ และสภาพของผู้ป่วย แต่ละวิธีการรักษา มีจุดประสงค์ในการควบคุมการเจริญเติบโตของมะเร็ง ลดการแพร่กระจาย หรือรักษาตามอาการ

  • การผ่าตัด (Surgery) กรณีที่มะเร็งปอดยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ยังไม่มีการแพร่กระจาย ซึ่งระยะนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้
  • การฉายรังสี (Radiation Therapy) การทำลายเซลล์มะเร็งโดยใช้รังสีพลังงานสูง ในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ หรือใช้ร่วมกับการรักษาอื่น 
  • การเคมีบำบัด (Chemotherapy) การใช้ยาที่มีฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็ง ซึ่งเป็นการรักษาระยะที่แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เคมีบำบัดสามารถใช้ก่อนการผ่าตัดเพื่อยุบขนาดของก้อนมะเร็ง หรือหลังจากการผ่าตัดเพื่อป้องกันการกลับมาของมะเร็งได้เช่นกัน
  • ยามุ่งเป้า (Targetedtherapy) เป็นยาที่กำจัดเซลล์มะเร็งโดยตรง โดยไม่ทำลายเซลล์ปกติ ช่วยลดผลข้างเคียงและมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งสูง และมีผลข้างเคียงที่น้อยกว่าเคมีบำบัด
  • ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำลายเซลล์มะเร็ง มักใช้ในผู้ป่วยที่มะเร็งที่อยู่ในระยะที่มีการแพร่กระจาย
  • การรักษาแบบประคับประคอง เป็นการดูแลโดยน้นการบรรเทาอาการเจ็บปวด เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยในระยะสุดท้าย หรือในกรณีที่มะเร็งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

     การรักษามะเร็งปอดจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของมะเร็งปอด ระยะของโรค สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย และตำแหน่งของก้อนมะเร็ง จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยเหล่านี้เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล ดังนั้นจึงควรต้องหมั่นดูแลตัวเองเพื่อลดการสูญเสีย และลดการเกิดโรคครับ

 

การดูแลหลังการเข้ารับการรักษา 

     การดูแลหลังเข้าการรักษาเป็นขั้นตอนที่สำคัญเช่นกันครับ หลังจากผ่านการรักษามะเร็งปอดไปแล้วหากมีการดูแลเป็นอย่างดีก็จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกาย และจิตใจ เพิ่มคุณภาพชีวิต ลดความเสี่ยงในการเกิดซ้ำ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่แข็งแรง ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ควรหมั่นปฎิบัติตามนี้ครับ 

  • การติดตามผลการรักษา หลังจากการรักษาต้องมีการติดตามผลด้วยการตรวจสุขภาพอยู่เสมอ เช่น การทำ CT Scan, X-ray, หรือการตรวจเลือด เพื่อดูผลจากการรักษา และการตรวจหามะเร็งที่อาจกลับมาอีก
  • การฟื้นฟูร่างกาย หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินหรือการทำกิจกรรมเบา ๆ ฟื้นฟูความแข็งแรงของปอด ฝึกหายใจ ช่วยให้การหายใจดีขึ้น แต่หากเหนื่อยง่าย หรือหายใจลำบากควรปรึกษาแพทย์อีกครั้ง
  • การควบคุมอาหาร รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เสริมสร้างร่างกาย ช่วยให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี โดยเน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ปลา เนื้อไก่ ถั่ว ผักผลไม้ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • ผลข้างเคียง ผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งปอด สามารถจัดการได้ด้วยการทำตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ หรือการพักผ่อนอย่างเพียงพอ 
  • การดูแลสุขภาพจิต การรักษามะเร็งปอดอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเครียด หรือวิตกกังวล ดังนั้นการได้กำลังใจจากคนรอบข้าง หรือจากครอบครัว เพื่อน จึงมีความสำคัญมาก 

     การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ควันบุหรี่มือสอง และหลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ และสารเคมีอันตรายที่อาจทำให้ปอดเสียหาย 

 

ศูนย์มะเร็ง PSSK

     ศูนย์มะเร็ง PSSK เป็นศูนย์กลางที่มุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งอย่างครบวงจร ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งวิทยา พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเรามีเป้าหมายให้บริการรักษามะเร็งและรังสีรักษา ที่มีมาตรฐานสากลเพื่อให้ชาวศรีสะเกษและพื้นที่ใกล้เคียง ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เรามุ่งมั่นเพื่อเดินหน้ายกระดับการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ด้วยการเปิดศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาแห่งแรกของจังหวัดศรีสะเกษ ถือเป็นการร่วมกับภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในพื้นที่อย่างครบวงจร และทันสมัย ให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่มุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจนถึงระยะสุดท้าย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาค หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศูนย์มะเร็ง PSSK สามารถติดต่อได้ที่ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ  

 

บทความโดย
นพ.วงศกร กัลยพฤกษ์  (อายุรแพทย์โรคทางเดินหายใจและปอด)
ข้อมูล ณ เดือน มกราคม 2568

 

คลิก เพื่อดูศูนย์การรักษาอื่น ๆ



แพทย์ประจำศูนย์

ศัลยกรรมกระดูก

นพ.มหิศวร ทองอินทร์

ศัลยศาสตร์ออโธปิดิกส์

แผนกอายุรกรรมโรคหัวใจ

พญ.วรรน์นา พิมานแพง

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ

อายุรกรรมประสาท และสมอง

นพ.ธนิตพงศ์ เมธีพิสิษฐ์

อายุรศาสตร์ประสาทวิทยา

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์